เจาะลึกเลนส์โปรเกรสซีฟ ทำไมราคาถึงต่างกัน?
เลนส์โปรเกรสซีฟ ราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ช่วยเอื้อประโยชน์ให้ผู้สวมใส่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในทุกระยะ ตั้งแต่ระยะใกล้ไปจนถึงระยะไกล โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาแว่นสายตาหลายอัน ทำให้เลนส์ชนิดนี้เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาด้านสายตาจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือแม้กระทั่งความเสื่อมของอวัยวะตามกาลเวลา
เลนส์โปรเกรสซีฟอาจมีราคาที่แตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน เช่น วัสดุที่ใช้ผลิต การออกแบบ รวมถึงแบรนด์ของเลนส์แว่นตา เพื่อให้ทุกคนมีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น วันนี้ Dr.Ouise Eye Clinic จะพาทุกคนมาเจาะลึกถึงเลนส์ชนิดนี้ ทั้งปัจจัยในการตั้งราคา ระดับของเลนส์ รวมถึงการแนะนำวิธีเลือกเลนส์ให้เหมาะสม เพื่อให้การเลือกซื้อแว่นตามีความคุ้มค่า และตอบโจทย์การใช้งานสูงสุด
เลนส์โปรเกรสซีฟ ราคาเท่าไหร่? ปัจจัยที่กำหนดราคาที่คุณควรรู้
เลนส์โปรเกรสซีฟ ราคามีความแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้
- ปริมาณค่าสายตา : เลนส์โปรเกรสซีฟ สามารถสั่งตัดได้ทุกค่าสายตา ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตายาว รวมถึงสายตาเอียง โดยมีสามารถปรับแต่งรูปแบบตามค่าสายตาในแต่ละบุคคล
- คุณภาพของเลนส์ : หากใช้เทคโนโลยีระดับเริ่มต้นในการผลิต จะทำให้ผลิตได้ในปริมาณมาก ซึ่งมีผลต่อความละเอียด และมุมมองที่ผู้สวมใส่มองเห็น แตกต่างกับการใช้เทคโนโลยีระดับสูงในการผลิต ที่เลนส์จะถูกผลิตเพื่อแก้ปัญหาค่าสายตาเฉพาะบุคคล ทำให้มองเห็นมุมมองที่กว้างขึ้น และรู้สึกสบายตาได้มากกว่า
- แบรนด์ของเลนส์ : เลนส์โปรเกรสซีฟแต่ละแบรนด์ช่วยทำให้มองเห็นได้ชัดทุกระยะเหมือนกัน แต่คุณสมบัติ และฟังก์ชันพิเศษของแต่ละแบรนด์ จะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กำหนดให้ราคานั้นมีความแตกต่างกัน
เลนส์โปรเกรสซีฟ แบรนด์ Nikon มีทั้งหมด 5 รุ่น
Nikon มีเลนส์โปรเกรสซีฟหลากหลายรุ่นตอบโจทย์ทุกความต้องการ ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับพรีเมียม
รุ่น SEEMAX ULTIMATE Z ราคา
เทคโนโลยีเด่น: Z-Contrast, Contrast Personalisation, Insights Technology (ร่วมออกแบบเลนส์), Binocular Tuner (ปรับสมดุลตา), Deformation Tuner (ลดภาพบิดเบือน), Frame Shape Optimisation, Softening Filter, Widening Filter, Horizontal Power Optimisation, ViewFit Optimisation, Node-Z Optimisation, Node Optimisation
ราคา: 42,900 - 118,700 บาท

รุ่น PRESIO MASTER Z ราคา
จุดเด่น: เลนส์รุ่นนี้ของ Nikon เหมาะสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟที่ต้องใช้สายตาเยอะ ๆ เพราะช่วยอาการเมื่อยล้าของดวงตาที่เกิดจากการใช้งานดวงตาอย่างหนัก และขจัดภาพบิดเบือน ทำให้มองเห็นได้อย่างสบายตาแม้ในกิจกรรมที่ต้องการความคมชัดสูง
เทคโนโลยีเด่น: Z-Contrast, Binocular Tuner, Deformation Tuner, Softening Filter, Widening Filter, Horizontal Power Optimisation, ViewFit Optimisation, Node-Z Optimisation, Node Optimisation
ราคา: 29,700 - 76,500 บาท
รุ่น PRESIO POWER Z ราคา
จุดเด่น: เลนส์นี้โดดเด่นเรื่องการควบคุมสายตาเอียงและลดความบิดเบือนบริเวณขอบเลนส์ ทำให้ปรับตัวได้ง่ายขึ้น และมีโซนมองเห็นระยะกลางที่กว้างเป็นพิเศษ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีค่าสายตาแอดดิชั่น (Addiction) สูง
เทคโนโลยีเด่น: Z-Contrast, Softening Filter, Widening Filter, Horizontal Power Optimisation, ViewFit Optimisation, Node Optimisation
ราคา: ราคา: 19,800 - 49,400 บาท
รุ่น PRESIO ADVANCE Z ราคา
จุดเด่น: เลนส์รุ่นนี้ช่วยปรับการกระจายค่าสายตาในแนวนอน ทำให้ภาพคมชัดและสมดุลในทุกระยะ ไม่ว่าจะมองใกล้หรือไกล ก็สบายตาและลดการบิดเบือนของภาพได้ดี
เทคโนโลยีเด่น: Z-Contrast, Softening Filter, Horizontal Power Optimisation, ViewFit Optimisation, Node Optimisation
ราคา: 13,200 - 36,200 บาท
รุ่น PRESIO FIRST ราคา
จุดเด่น: เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใช้เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นครั้งแรก เพราะมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้การมองเห็นมีประสิทธิภาพและเข้ากับกรอบแว่นได้หลากหลาย
เทคโนโลยีเด่น: ViewFit Optimisation, Node Optimisation
ราคา: 8,700 - 27,000 บาท
เลนส์โปรเกรสซีฟ แบรนด์ HOYA มีทั้งหมด 9 รุ่น
Hoya มีเลนส์โปรเกรสซีฟหลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน
รุ่น MySelf HOYALUX ราคา
เทคโนโลยีเด่น: Binocular Eye Model, Integrated Double Surface Design, Binocular Harmonization, 3D Binocular Vision, AdaptEase Technology, QuicFocus Technology, QuicScan Technology, Multiple Corridor Lengths, Auto Adjust, View Xpansion, Stable View, Power Optimizer, Smart Analysis, Personalized Designs, HOYA iDentifier, Inset Optimization, Lifestyle Customization
ราคา: 58,500 - 89,400 บาท

รุ่น MySelf Profile ราคา
จุดเด่น: เลนส์โปรเกรสซีฟอัจฉริยะที่ออกแบบมาเพื่อไลฟ์สไตล์ดิจิทัลของคุณ มี 5 รูปแบบให้เลือกตามกิจกรรมหลักของคุณ (Adventure, Modern, Stable, Detail, Expert) ช่วยให้ปรับตัวง่ายและมองเห็นชัดเจนในทุกระยะ
เทคโนโลยีเด่น: Binocular Eye Model, Integrated Double Surface Design, Binocular Harmonization, 3D Binocular Vision, AdaptEase Technology, QuicFocus Technology, QuicScan Technology, Multiple Corridor Lengths, Auto Adjust, View Xpansion, Stable View, Power Optimizer, Smart Analysis, HOYA iDentifier, Inset Optimization, Lifestyle Customization
ราคา: 42,000 - 72,900 บาท
รุ่น LifeStyle 4 ราคา
จุดเด่น: เลนส์รุ่นนี้มาพร้อม 3 เทคโนโลยีหลักที่ช่วยลดภาพบิดเบือนด้านข้าง ทำให้การมองเห็นสองตาดีขึ้น และปรับโฟกัสได้นุ่มนวล เพิ่มความนิ่งและการรับรู้ความลึกของภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับ 3 สไตล์ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยู่ในอาคารเป็นหลัก ผู้ที่มีกิจกรรมทั้งในร่มและกลางแจ้งใกล้เคียงกัน หรือผู้ที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่นอกอาคาร
เทคโนโลยีเด่น: Binocular Eye Model, Integrated Double Surface Design, Binocular Harmonization, 3D Binocular Vision, AdaptEase Technology, QuicFocus Technology, QuicScan Technology, Multiple Corridor Lengths, Auto Adjust, View Xpansion, Stable View, Power Optimizer, HOYA iDentifier, Inset Optimization, Lifestyle Customization
ราคา: 42,000 - 54,900 บาท
รุ่น LifeStyle 3 ราคา
จุดเด่น: เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟระดับพรีเมียมที่คำนึงถึงไลฟ์สไตล์และการวางตำแหน่งของกรอบแว่นบนใบหน้า เพื่อให้เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ ช่วยให้ปรับตัวง่ายและให้ภาพคมชัดในทุกระยะ เหมาะสำหรับผู้ใช้ใหม่ที่ต้องการความสบาย มี 3 แบบย่อยตามไลฟ์สไตล์ เช่น Indoor (เหมาะสำหรับคนทำงานในอาคาร) Outdoor (เหมาะสำหรับคนใช้เวลากลางแจ้งบ่อย) และ Urban (เหมาะสำหรับคนที่มีกิจกรรมทั้งในและนอกอาคารสลับกัน)
เทคโนโลยีเด่น: Binocular Eye Model, Integrated Double Surface Design, Binocular Harmonization, QuicFocus Technology, QuicScan Technology, Multiple Corridor Lengths, Auto Adjust, View Xpansion, Stable View, Power Optimizer, HOYA iDentifier, Inset Optimization, Lifestyle Customization
ราคา: 25,500 - 47,400 บาท
รุ่น LifeStyle Balansis ราคา
จุดเด่น: เลนส์โปรเกรสซีฟขั้นสูงที่เน้นความสบายตาเป็นพิเศษ ลดภาพสั่นไหวและปรับตัวง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้เลนส์โปรเกรสซีฟครั้งแรก ให้ความนุ่มนวลและภาพคมชัดเป็นธรรมชาติในทุกระยะ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมประจำวันหรือการใช้เครื่องมือดิจิทัล ก็ช่วยให้การกวาดสายตาและการโฟกัสเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่เกิดอาการล้าหรือเวียนหัว
เทคโนโลยีเด่น: Binocular Eye Model, Integrated Double Surface Design, QuicFocus Technology, QuicScan Technology, Multiple Corridor Lengths, Auto Adjust, View Xpansion, Stable View, Power Optimizer, Inset Optimization
ราคา: 18,900 - 40,800 บาท
รุ่น Dynamic Premium ราคา
จุดเด่น: เลนส์รุ่นนี้ออกแบบโครงสร้างให้มีมุมมองที่กว้างขึ้นและคมชัดในทุกระยะด้วยเทคโนโลยี Back Surface Freeform ช่วยให้ปรับการมองเห็นจากระยะไกลมาระยะใกล้ได้อย่างนุ่มนวลและสบายตามากกว่าเลนส์โปรเกรสซีฟทั่วไป คุณยังสามารถเลือกกรอบแว่นได้อย่างอิสระโดยไม่ลดทอนคุณภาพการมองเห็น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลนส์โปรเกรสซีฟคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ และต้องการมุมมองที่กว้างขึ้นในทุกระยะ
เทคโนโลยีเด่น: QuicFocus Technology, QuicScan Technology, Multiple Corridor Lengths, View Xpansion, Stable View, Power Optimizer
ราคา: 15,300 - 28,200 บาท
รุ่น Dynamic Summit ราคา
จุดเด่น: ออกแบบมาเพื่อความสบายตาและการเปลี่ยนโฟกัสที่นุ่มนวล เพิ่มพื้นที่การมองเห็นที่ชัดเจน เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเป็นธรรมชาติในการใช้สายตา ด้วยเทคโนโลยี Back Surface Freeform ที่ช่วยเพิ่มมุมมองให้กว้างและคมชัดในทุกระยะ
เทคโนโลยีเด่น: QuicFocus Technology, QuicScan Technology, Multiple Corridor Lengths
ราคา: 9,900 - 23,000 บาท
รุ่น Amplitude Clear ราคา
เทคโนโลยีเด่น: Freeform Digital Surfacing, Flere progressions zoner
ราคา: 8,400 - 21,900 บาท
รุ่น Amplitude Plus ราคา
จุดเด่น: เลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีสายตายาวตามวัยแต่ค่าสายตาไม่ได้ซับซ้อน หรือเริ่มมีปัญหามองใกล้ไม่ชัดเจน คุณจะสามารถปรับตัวกับเลนส์ได้ง่ายในราคาที่จับต้องได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลนส์คุณภาพสูงแต่ยังไม่ต้องการเลนส์ระดับพรีเมียม
เทคโนโลยีเด่น: Freeform Digital Surfacing, Flere progressions zoner
ราคา: 6,000 - 19,500 บาท
เลนส์โปรเกรสซีฟ แบรนด์ Rodenstock มีทั้งหมด 4 รุ่น
Rodenstock นำเสนอเลนส์โปรเกรสซีฟ 4 รุ่นหลัก ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อตอบโจทย์การมองเห็นที่แตกต่างกัน
รุ่น Impression B.I.G. NORM ราคา
จุดเด่น: นี่คือสุดยอดเลนส์โปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์ที่ล้ำสมัยที่สุด ด้วยการคำนวณโครงสร้างเลนส์ให้เข้ากับกรอบแว่นทุกรูปทรง แม้กรอบโค้ง พร้อมเทคโนโลยี AI ที่จำลองดวงตาของคุณให้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด ทำให้คุณได้รับมุมมองที่คมชัด สบายตา และปรับตัวเข้ากับเลนส์ได้ง่ายกว่าที่เคย
เทคโนโลยีเด่น: Design Technology, Individual Parameter, Power Customization, PD Optimize Inset, AI Modeling, Spherical Optimization, EyeLT® Technology, 3D Freeform, HOA: High Order Aberration Consideration, Wavefront Technology and Retina Focus Principle, Variable Inset
ราคา: 39,000 - 102,000 บาท
รุ่น Multigressive B.I.G. NORM ราคา
จุดเด่น: เลนส์โปรเกรสซีฟที่ใช้เทคโนโลยี Power Customization เพื่อคำนวณข้อมูลการมองเห็นจริงของคุณอย่างละเอียด ทั้งค่าสายตา ระยะห่างรูม่านตา และค่า Addition พร้อมผสานเทคโนโลยี AI ในการออกแบบโครงสร้างเลนส์ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ ทำให้ใส่สบายในทุกค่าสายตา
เทคโนโลยีเด่น: Power Customization, PD Optimize Inset, AI Modeling, Spherical Optimization, EyeLT® Technology, 3D Freeform, HOA: High Order Aberration Consideration, Wavefront Technology and Retina Focus Principle, Variable Inset
ราคา: 27,000 - 63,000 บาท
รุ่น Progressiv ราคา
จุดเด่น: เลนส์โปรเกรสซีฟที่ใช้เทคโนโลยีการขัดเลนส์แบบใหม่ที่ให้อิสระในการออกแบบระดับสูง ด้วยหัวขัดขนาดเล็กระดับไมครอน และเทคโนโลยีคำนวณขั้นสูงที่ออกแบบโครงสร้างให้เข้ากับแต่ละบุคคล ทำให้เลนส์มีความละเอียดและแม่นยำสูง ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาเมื่อใช้สายตาเป็นเวลานาน เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีสายตายาวตามวัยและต้องการภาพคมชัดในทุกระยะที่ปรับตัวในการมองได้ง่าย ในราคาที่จับต้องได้
เทคโนโลยีเด่น: Spherical Optimization, EyeLT® Technology, 3D Freeform, HOA: High Order Aberration Consideration, Wavefront Technology and Retina Focus Principle, Variable Inset
ราคา: 12,000 - 40,500 บาท
เลนส์โปรเกรสซีฟ แบรนด์ Essilor มีทั้งหมด 5 รุ่น
Essilor มีเลนส์โปรเกรสซีฟ 5 รุ่นหลักที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ตั้งแต่รุ่นท็อปไปจนถึงรุ่นเริ่มต้น
รุ่น Varilux XR-Series ราคา
จุดเด่น: นี่คือรุ่นท็อปสุดของ Essilor มาพร้อมเทคโนโลยี XR-motion ที่ปรับแต่งโครงสร้างเลนส์โดยวิเคราะห์จากพฤติกรรมการมองเห็นของคุณ ทำให้ลดความคลาดเคลื่อนของค่าสายตา มองเห็นคมชัดทันทีในทุกระยะ แม้ขณะเคลื่อนไหวหรือในสภาพแสงน้อย ผู้ใช้งานจริงกว่า 95% สามารถปรับตัวได้ตั้งแต่วันแรก ให้มุมมองที่เป็นธรรมชาติจากใกล้จนถึงไกล และมีระยะช่วงแขนที่คมชัดจากเทคโนโลยี Xtend พร้อมลดภาพบิดเบือนจากเทคโนโลยี Nanoptix
เทคโนโลยีเด่น: XR-motion, Xtend, Nanoptix, Dual Booster, Pupilizer, Synchroneyes, W.A.V.E 2.0, Flex optim, Path Optimizer, Live Optics, Digital Focus Booster
ราคา: 37,200 - 164,700 บาท
รุ่น Varilux Physio Extensee ราคา
จุดเด่น: เลนส์รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีที่วิเคราะห์ค่าสายตาทั้งสองข้างที่แตกต่างกัน เพื่อช่วยให้การปรับโฟกัสนุ่มนวลจากการมองใกล้ไประยะไกล รองรับไลฟ์สไตล์ที่กระฉับกระเฉง มองเห็นคมชัดทั้งกลางวันและกลางคืน ลดภาพบิดเบือน และให้ภาพคมชัดทุกระยะอย่างเป็นธรรมชาติ
เทคโนโลยีเด่น: Dual Booster, Pupilizer, Synchroneyes, W.A.V.E 2.0, Flex optim, Path Optimizer, Live Optics, Digital Focus Booster
ราคา: 23,400 - 88,500 บาท
รุ่น Varilux Comfort Max ราคา
จุดเด่น: เลนส์รุ่นนี้มีเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มมุมมองให้กว้างขึ้นสูงสุดถึง 46% และออกแบบโครงสร้างเลนส์เพื่อการมองเห็นที่ยืดหยุ่น เข้ากับพฤติกรรมการมองของแต่ละคน สวมใส่สบายตาทั้งวันในทุกท่วงท่า ไม่ว่าจะทำกิจกรรมใด ช่วยลดภาพบิดเบือนด้านข้าง และให้รายละเอียดคมชัดแม้ในที่แสงน้อย
เทคโนโลยีเด่น: W.A.V.E 2.0, Flex optim, Path Optimizer, Live Optics, Digital Focus Booster
ราคา: 17,400 - 45,600 บาท
รุ่น Varilux Liberty 3.0 ราคา
จุดเด่น: เลนส์รุ่นนี้มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ปรับตัวได้ง่าย ให้มุมมองที่เป็นธรรมชาติในทุกระยะ เหมือนกับเลนส์ที่มีค่าสายตาเดียว ปรับโครงสร้างตามค่าสายตาทำให้ได้มุมมองที่กลมกลืนและกว้างขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใส่แว่นโปรเกรสซีฟ หรือไม่เคยใช้แว่นโปรเกรสซีฟมาก่อน
เทคโนโลยีเด่น: Path Optimizer, Live Optics, Digital Focus Booster
ราคา: 13,500 - 39,900 บาท
รุ่น Varilux Start ราคา
จุดเด่น: เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นเริ่มต้นที่เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาสายตาใกล้ ด้วยเทคโนโลยี Digital Focus Booster ที่เพิ่มขอบเขตการมองให้กว้างขึ้น 30% และเทคโนโลยี Live Optics ที่ให้มุมมองคมชัดทุกระยะในเลนส์เดียว ทำให้ปรับตัวง่าย สบายตา และเปลี่ยนโฟกัสได้อย่างนุ่มนวล
เทคโนโลยีเด่น: Live Optics, Digital Focus Booster
ราคา: 9,900 - 18,900 บาท
เลนส์โปรเกรสซีฟ แบรนด์ Shamir มีทั้งหมด 6 รุ่น
Essilor มีเลนส์โปรเกรสซีฟ 5 รุ่นหลักที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย ตั้งแต่รุ่นท็อปไปจนถึงรุ่นเริ่มต้น
รุ่น Shamir Autograph Intelligence ราคา
จุดเด่น: นี่คือเลนส์โปรเกรสซีฟขั้นสูงที่ใช้เทคโนโลยี BigData AI ในการออกแบบโครงสร้างเลนส์ โดยพิจารณาความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ ให้ความคมชัดและลื่นไหลในการมองทุกระยะ คุณจะสัมผัสได้ถึงการมองเห็นที่เหมือนเลนส์ชั้นเดียว ปรับตัวได้ง่าย และเป็นธรรมชาติในทุกการเคลื่อนไหว
เทคโนโลยีเด่น: Eye-Point Technology AI, Continuous Design Technology, Visual AI Engine, As-Worn POV (As-Worn Point of View), Intellicorridor, Close-Up Technology, Neutral Posture
ราคา: 29,900 - 74,400 บาท
รุ่น Shamir Autograph IIID ราคา
จุดเด่น: เลนส์รุ่นนี้ให้พื้นที่การมองเห็นที่สม่ำเสมอในทุกค่าสายตา ช่วยลดการเคลื่อนไหวศีรษะที่ไม่จำเป็น มอบประสบการณ์การมองเห็นเฉพาะบุคคลที่คมชัดและเป็นธรรมชาติในทุกกิจกรรมประจำวัน ไม่ต้องกังวลเรื่องการเลือกกรอบแว่น
เทคโนโลยีเด่น: Eye-Point Technology III, As-Worn POV (As-Worn Point of View), Intellicorridor, Close-Up Technology, Neutral Posture
ราคา: 24,900 - 69,400 บาท
รุ่น Shamir Autograph Intouch UX ราคา
จุดเด่น: เลนส์รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลโดยเฉพาะ ให้ภาพคมชัดและเหลือบมองได้ง่ายในระยะ 40-70 เซนติเมตร พร้อมการเปลี่ยนระยะการมองที่ลื่นไหลทั้งในระยะไกล กลาง และใกล้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่ต้องจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน
เทคโนโลยีเด่น: Intellicorridor, As-Worn Quadro, Close-Up Technology, Neutral Posture, Eye-Point Technology III
ราคา: 24,900 - 69,400 บาท
รุ่น Shamir Autograph Urban ราคา
จุดเด่น: เลนส์นี้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมืองโดยเฉพาะ ให้การโฟกัสที่รวดเร็วและนุ่มนวลสำหรับระยะกลางและระยะใกล้ เหมาะสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มสวมใส่เลนส์โปรเกรสซีฟที่ต้องการปรับตัวง่ายและเปลี่ยนระยะโฟกัสได้อย่างรวดเร็วในชีวิตประจำวัน
เทคโนโลยีเด่น: Intellicorridor, Close-Up Technology, Eye-Point Technology III
ราคา: 12,900 - 54,400 บาท
รุ่น Shamir Spectrum+ ราคา
จุดเด่น: เลนส์โปรเกรสซีฟที่รองรับทุกการใช้งานขั้นพื้นฐาน ให้การเหลือบมองระยะใกล้ได้อย่างสบาย ปราศจากอาการปวดเมื่อย พร้อมให้พื้นที่การมองระยะใกล้ที่กว้างกว่าเลนส์โปรเกรสซีฟทั่วไป เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปที่เน้นความคมชัดและความสบายตาในระยะใกล้
เทคโนโลยีเด่น: Intellicorridor, Eye-Point Technology III
ราคา: 12,900 - 54,400 บาท
รุ่น Shamir FirstPAL ราคา
จุดเด่น: เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟ Freeform พื้นฐานที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลนส์คุณภาพมาตรฐาน ในราคาที่คุ้มค่าและเข้าถึงได้ ให้ภาพที่ชัดเจนและสะดวกสบาย ช่วยให้อ่านตัวอักษรขนาดเล็กได้ง่าย และมองเห็นระยะไกลได้ดีในเลนส์คู่เดียว
เทคโนโลยีเด่น: Eye-Point Technology
ราคา: 3,900 - 10,900 บาท
อัปเดตราคาเลนส์โปรเกรสซีฟแต่ละระดับ (ปี 2025)
เลนส์โปรเกรสซีฟ เลนส์เดียวที่สามารถใช้งานได้ทั้งมองใกล้ มองกลาง และมองไกล สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเลนส์โปรเกรสซีฟในปี 2025 นี่คืออัปเดตราคาล่าสุดที่คุณควรรู้ แบ่งตามแบรนด์และระดับคุณภาพเลนส์ เพื่อให้คุณสามารถเลือกเลนส์ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์แล้วงบประมาณได้
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาของเลนส์โปรเกรสซีฟ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาของเลนส์โปรเกรสซีฟ สามารถแบ่งได้ตามลักษณะดังต่อไปนี้
โครงสร้างและเทคโนโลยีการออกแบบ
โครงสร้างและเทคโนโลยีการออกแบบ เป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่มีผลต่อราคาของเลนส์โปรเกรสซีฟ ซึ่งในปัจจุบัน มีระดับของเลนส์เลือกสรรได้ตั้งแต่เลนส์สำเร็จรูป ไปจนถึงเลนส์ที่มีการปรับแต่งเพื่อค่าสายตาเฉพาะบุคคล ผ่านการใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่ทันสมัย ผลลัพธ์ที่มีความละเอียดแม่นยำ ช่วยให้ผู้สวมใส่แว่นตาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ไร้รอยต่อ ไม่ทำให้เกิดอาการเวียนหัว
วัสดุและคุณสมบัติพิเศษ
วัสดุและคุณสมบัติพิเศษ ย่อมมีราคาที่สูงกว่าเลนส์ทั่วไป โดยเฉพาะเลนส์โปรเกรสซีฟที่มีการปรับแต่งฟังก์ชันเสริมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน และช่วยถนอมสุขภาพสายตาได้ดีมากยิ่งขึ้น เช่น เพิ่มคุณสมบัติในการกรองแสงสีฟ้า หรือเพิ่มคุณสมบัติให้เลนส์สามารถเปลี่ยนสีได้เองเมื่อเดินอยู่กลางแจ้ง เป็นต้น
ความแม่นยำในการวัดค่าสายตาและการประกอบเลนส์
ความแม่นยำในการวัดค่าสายตาและการประกอบเลนส์ หากมีการวัดค่าสายตา พร้อมวัดจุดกึ่งกลางสายตา จะช่วยให้ตำแหน่งโฟกัสของเลนส์ มีความสอดคล้องกับลักษณะทางสายตาของผู้สวมใส่ ช่วยแก้ปัญหาด้านการมองเห็น และลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้เลนส์ไม่เหมาะกับค่าสายตา เช่น อาการเวียนหัว ปวดตา เป็นต้น ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เลนส์มีราคาค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นตามกระบวนการผลิต และการปรับแต่งที่มีคุณภาพสูง
ระดับราคาเลนส์โปรเกรสซีฟ ทางเลือกที่หลากหลาย
ระดับราคาเลนส์โปรเกรสซีฟ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับดังต่อไปนี้
เลนส์โปรเกรสซีฟระดับเริ่มต้น
เลนส์โปรเกรสซีฟระดับเริ่มต้น มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น โดยผู้ใช้งานต้องใช้ระยะเวลาปรับตัว และฝึกมองเพื่อหาตำแหน่งจุดโฟกัสของเลนส์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟในครั้งแรก หรือผู้ที่มีปัญหาค่าสายตาไม่ซับซ้อน
เลนส์โปรเกรสซีฟระดับกลาง
เลนส์โปรเกรสซีฟระดับกลาง มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นต้น ๆ ไปจนถึงหลักหมื่นกลาง ๆ สามารถมองหาตำแหน่งโฟกัสของเลนส์ได้ง่ายกว่าระดับเริ่มต้น เหมาะสำหรับผู้ที่เคยมีประสบการณ์ใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟมาแล้ว รวมทั้งเป็นผู้เริ่มต้นใช้งานครั้งแรกที่มีปัญหาค่าสายตาเพิ่มมากขึ้น
เลนส์โปรเกรสซีฟระดับสูง
เลนส์โปรเกรสซีฟระดับสูง มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักหมื่นปลาย ๆ ขึ้นไป โดยเลนส์มีลักษณะที่ช่วยทำให้มองเห็นได้ชัดทุกระยะ โดยไม่ทำให้เกิดรอยต่อของภาพ ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้ผู้ใช้งานอาจเกิดอาการเวียนหา หรือไม่สบาย ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้สูงวัย ผู้ที่มีปัญหาค่าสายตาที่ซับซ้อน รวมถึงผู้ใช้งานที่เคยผ่านการใช้เลนส์ทั้ง 2 ระดับมาแล้วแต่ไม่สามารถปรับตัวได้
เลือกเลนส์โปรเกรสซีฟให้เหมาะกับคุณ
เลือกเลนส์โปรเกรสซีฟให้เหมาะกับคุณ สามารถพิจารณาจากแบรนด์ชั้นนำดังต่อไปนี้
- เลนส์โปรเกรสซีฟ แบรนด์ Shamir : แบรนด์จากประเทศอิสราเอล ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อช่วยคำนวนและผลิตเลนส์ เพื่อการการมองเห็นที่คมชัด โดยสามารถเปลี่ยนระยะสายตาได้อย่างราบรื่น และนุ่มนวล ราคาเริ่มต้น 10,000 34,000 บาท ขึ้นไป
- เลนส์โปรเกรสซีฟ แบรนด์ Nikon : แบรนด์จากประเทศญี่ปุ่น มีเทคโนโลยี N.O.D.E ในการคำนวนค่าสายตาที่แม่นยำที่สุด มาพร้อมกับคุณสมบัติในการแก้ปัญหาค่าสายตายาวตามวัย ให้การมองเห็นที่คมชัด เป็นธรรมชาติ และสบายตา ราคาเริ่มต้น 11,700 36,000 บาท ขึ้นไป
- เลนส์โปรเกรสซีฟ แบรนด์ Essilor : แบรนด์จากประเทศฝรั่งเศษ ที่มีการออกแบบมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้มีค่าสายตายาวตามวัย ให้สามารถมองเห็นได้อย่างคมชัด ไร้รอยต่อ ภาพผิดเพี้ยนน้อย และไม่เกิดการสั่นไหวขณะเคลื่อนที่ ราคาเริ่มต้น ราคา 12,000 35,000 บาท ขึ้นไป
- เลนส์โปรเกรสซีฟ แบรนด์ Hoya : แบรนด์คุณภาพสูงจากประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เทคโนโลยี iD FreeForm จำลองการมองเห็น เพื่อให้มาซึ่ง Hoyalux iD เลนส์โปรเกรสซีฟที่ช่วยให้มองเห็นได้อย่างชัดเจนทั้งมุมมองไกล ใกล้ ไปจนถึงมุมมองกว้าง ราคาเริ่มต้น 12,900 44,000 บาท ขึ้นไป
- เลนส์โปรเกรสซีฟ แบรนด์ Zeiss : แบรนด์จากประเทศเยอรมัน มีความโดดเด่นด้านเนื้อเลนส์ที่มีความใสสูง ทำให้ผู้ใช้งานมองเห็นได้อย่างเป็นธรรมชาติ รวมทั้งสามารถปรับแต่งเลนส์เพื่อให้การสวมใส่สบายตามากขึ้น รวมทั้งช่วยปกป้องสายตาจากรังสียูวีได้ถึง 400 นาโนเมตร ราคาเริ่มต้น ราคา 15,000 56,000 บาท ขึ้นไป
- เลนส์โปรเกรสซีฟ แบรนด์ Rodenstock : แบรนด์จากประเทศเยอรมัน ที่มีการใช้เทคโนโลยี Wavefront สำหรับการขัดเลนส์ที่มีการสั่งตัดเฉพาะบุคคล ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และลดมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นขณะเริ่มต้นใช้งานได้เป็นอย่างดี ราคาเริ่มต้น 15,300 53,000 บาท ขึ้นไป
**อ้างอิงจากราคาโดยประมาณตามท้องตลาด
บทสรุป
เลนส์โปรเกรสซีฟ มีราคาที่แตกต่าง โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าสายตาของผู้ใช้งาน เทคโนโลยีที่ใช้ในการออกแบบ การปรับแต่งฟังก์ชันเสริมของเลนส์ รวมถึงการเลือกใช้งานตามระดับของเลนส์โปรเกรสซีฟ และการเลือกแบรนด์ชั้นนำของเลนส์ ที่มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Shamir, Nikon, Essilor, Hoya, Zeiss และ Rodenstock
FAQ (คำถามที่พบบ่อย) เกี่ยวกับเลนส์โปรเกรสซีฟ
เลนส์โปรเกรสซีฟต้องใช้เวลาปรับตัวนานแค่ไหน?
เลนส์โปรเกรสซีฟ มีระยะเวลาในการปรับตัวประมาณ 1 สัปดาห์ โดยขึ้นอยู่กับการฝึกใช้งาน ความเคยชิน คุณภาพของเลนส์ รวมถึงสุขภาพสายตาในแต่ละบุคคล
เลนส์โปรเกรสซีฟสามารถใช้กับกรอบแว่นทุกชนิดได้หรือไม่?
เลนส์โปรเกรสซีฟสามารถใช้กับกรอบแว่นได้เกือบทุกชนิด โดยสามารถพิจารณาถึงความเหมาะสมทั้งขนาดและรูปทรงที่มีความโค้งพอดีกับเลนส์ ความหนาของกรอบแว่น รวมถึงวัสดุที่แข็งแรง เพื่อสามารถรองรับเลนส์ที่มีความละเอียดอ่อนได้เป็นอย่างดี
เลนส์โปรเกรสซีฟมีอายุการใช้งานนานเท่าไหร่?
เลนส์โปรเกรสซีฟมีอายุการใช้งานประมาณ 3-5 ปี โดยขึ้นอยู่กับลักษณะในการใช้งานของผู้สวมใส่ ปัญหาค่าสายตาที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการดูแลรักษาด้วยความเหมาะสม จะช่วยยืดอายุการใช้งานของแว่นตาให้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
บทความโดย
หมออุ๊ย แพทย์หญิง วชิรา สนธิไชย
จักษุแพทย์เฉพาะทางด้านการแก้ไขปัญหาสายตาและเลนส์โปรเกรสซีฟ
สาขาของเรา
- DR.OUISE EYE CLINIC
ที่ตั้ง ซอยพหลโยธิน 92 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130
เปิดบริการทุกวัน 10.00-18.00 น.
- DR.OUISE EYE SPECIALIST
ห้าง Fashion Island ชั้น 2 ห้องเลขที่ 2040B
เลขที่ 587,589,589/7-9 ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม 10230
เปิดบริการทุกวัน 10.00-22.00 น.